Cheesecake เค้กชีสหอมกรุ่น รสเข้มข้นแต่สัมผัสละมุน
ชีสเค้กคือเค้กที่แสนอร่อย ไขมันค่อนข้างเยอะ เนียนนุ่ม เนื้อสัมผัสเค้กละมุนลิ้น
แต่เต็มไปด้วยความเข้มข้นของชีส ส่วนประกอบหลักของชีสเค้กก็คือครีมชีสนั่นเอง ซึ่งมีหลายยี่ห้อแล้วแต่ชอบ ชีสเค้กที่ดีไม่ควรมีส่วนผสมหลายอย่างมากเกินไป เพราะเราต้องการความหอมมันของชีสเป็นหลัก
วิธีทำชีสเค้กให้อร่อยแบบง่ายที่สุดก็คือ ใส่ชีสให้เยอะที่สุด แต่วิธีนี้ก็เสี่ยงต่อความอ้วนที่เพิ่มสูง และความเลี่ยนของเค้กที่ทำให้ทานได้เพียงนิดเดียวก็เลี่ยนซะแล้ว จึงมีการเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่นไข่ แป้ง โยเกิรต หรือครีมเปรี้ยว นม วิปครีม หรือแม้แต่น้ำมะนาว หรือเลมอน นัยว่าช่วยลดต้นทุน และลดความเลี่ยนโดยยังคงมีรสชาติอร่อยใกล้เคียงกับการใส่ชีสเต็มๆได้เหมือนกัน
เราสามารถอบชีสเค้กได้ทั้งแบบ water bath หรือไม่ต้อง water bath ซึ่งผลลัพธ์ออกมาไม่เหมือนกัน
การอบแบบ water bath จะทำให้หน้าเค้กเป็นสีน้ำตาลเข้มและขอบข้างเค้กเป็นสีอ่อน และควรใช้พิมพ์ปกติ ไม่ใช่พิมพ์ถอดข้าง
การอบแบบไม่ water bath จะทำให้หน้าเค้กเป็นสีอ่อนและขอบข้างเค้กเป็นสีน้ำตาลเข้ม และควรใช้พิมพ์ถอดข้าง
วิธีทำชีสเค้ก
1. ตีครีมชีสด้วยหัวตีใบไม้ ความเร็วต่ำ ให้ชีสเ็ป็นครีมเนียน
2. ค่อยๆใส่น้ำตาล แป้ง ผิวเลมอน กลิ่นวนิลา และเกลือ ตามสูตร
3. ใส่ไข่ทีละใบ รอให้เข้ากันค่อยใส่ใบต่อไป
4. ใส่นม วิปครีม หรือน้ำเลมอน ตามแต่สูตร
5. หากต้องการ อบด้วย water bath ให้วางพิมพ์ในพิมพ์อีกใบที่ใหญ่กว่า แล้วเติมน้ำให้สูงเกือบเท่าครึ่งหนึ่งของพิมพ์ที่มีชีสเค้กอยู่ อบที่ 180 C กระทั่งสุก
หากต้องการ อบแบบไม่ water bath อบที่ 110 C ประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป วิธีนี้จะอบนานกว่า ชีสเค้กจะค่อยๆสุก
6. เมื่อสุกแล้ว วางพักให้เย็นก่อนจึงนำเค้กออกจากพิมพ์
สูตรชีสเค้ก Bakegazine
ครีมชีส 400 g.
น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง + 4 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 2 ใบ
ผิวเลมอน 1 ช้อนชา
น้ำเลมอน 2 ช้อนโตีะ
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
โยเกิรตรสธรรมชาติ 60 มิลลิลิตร
เทคนิคการทำชีสเค้กให้อร่อย
วางวัตถุดิบในอุณหภูมิห้องซักครึ่งชั่วโมงก่อนเริ่มทำ
ผสมแค่พอดี อย่าตีส่วนผสมนานเกินควร แค่ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอแล้ว
อย่าเปิดเตาอบบ่อยเพราะอาจทำให้ชีสเค้กยุบตัว
ชีสเค้กที่ดีควรอบแบบไม่สุกเกินไป ตรงกลางควรจะยังเหมือนเหลวอยู่เล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆสุกขึ้นอีกเมื่อปล่อยทิ้งไว้หลังอบเสร็จ
เก็บในตู้เย็นได้ 4-5 วัน เพื่อรสชาติที่ดี