My Day at Le cordon bleu 1 วันปันสุขกับคอร์สขนมแสนอร่อย

อ่าาา...ไม่ใช่ค่ะ ไม่ได้ไปเรียนที่ฝรั่งเศสหรอกค่ะ แต่ก็ไม่ต่างกันมากหรอกนะค้า
ก็แหม... Le cordon bleu ดุสิต เค้าทำมาตรฐานการเรียนการสอน เหมือนที่ฝรั่งเศสเป๊ะ
ทั้งการตกแต่งสถานที่ รูปแบบการสอน สูตรขนมต่างๆ

นอกจากนี้ก็ import พวกวัตถุดิบ อุปกรณ์ ต่างๆรวมไปถึงเชฟผู้สอนก็ถูกimport เข้ามาจากฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน! ว้าวววได้ทั้งเรียนทำขนม และฝึกภาษาไปด้วยในตัวเลยล่ะค่า

 แต่ถ้าภาษาไม่แข็งก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเค้ามีล่ามแปลภาษาให้ตลอดการสอนเลยล่ะค่ะ โดยจะใช้ภาษาอังกฤษในการสอนนะคะ (ไม่ใช่ภาษาฝรั่งเศสหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ^^)



พอมาถึงอย่างแรกเลย ต้องมาลงทะเบียนกันก่อนค่ะ เพื่อจะได้รับอุปกรณ์ต่างๆดังนี้ ผ้ากันเปื้อน, หมวก, สมุดฉีก,ดินสอ,สูตรขนม,ใบแนะนำตัวเชฟผู้สอนแล้วก็แฟ้มใสให้คนละชุดค่ะ

สำหรับวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆมาเข้าคอร์ส(workshop)สอนการทำ tarte coco fraise ค่ะ แปลตรงตัวว่า
ทาร์ตมะพร้าว-สตรอเบอร์รี่ นั่นเองค่าา ซึ่งเมนูนี้เป็นหนึ่งใน หลักสูตรระยะสั้น ของสถาบันสอนการประกอบอาหารชื่อดังอย่าง Le cordon bleu นั่นเองค่ะ เหมาะสำหรับคนมีเวลาน้อย หรือยังไม่มั่นใจว่าตัวเองชอบทำขนมจริงๆรึป่าว ก็สามารถลงหลักสูตรระยะสั้นแบบนี้ก็ได้ค่ะ
ใช้เวลาเรียนไม่นาน เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

เอาล่ะ!เพื่อนๆพร้อมกันรึยังค้าาา ถ้าพร้อมแล้วก็ป่ะ ไปเรียนทำขนมด้วยกันเล้ยยย


ในห้องครัวก็จะเต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ครบครันมากมาย เหมือนกับได้เข้าไปทำงานในร้านเบเกอรี่จริงๆเลยล่ะ


 ยกเว้นก็แต่วัตถุดิบที่ถูกเตรียมมาให้อย่างดีเท่านั้น (ก็แหงล่ะ ในครัวจริงๆใครเค้าจะมาเตรียมให้กันล่ะคะคู๊ณณณ)

 และแน่นอนว่าครัวเบเกอรี่  จะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้เลย สิ่งนั้นก็คือ


เชฟนั่นเองงงง วันนี้เราได้เรียนกับเชฟ Frederic ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการเบเกอรี่มากว่า 20ปีเลยทีเดียว (ถึงเชฟจะหน้าโหด แต่ฮามากค่ะ พูดเลย)

 และคำถามแรกที่เชฟถามพวกเราคืออะไรรู้มั้ยคะ เชฟถามว่าทำไมเนยถึงมีสีที่ต่างกันไปในแต่ละครั้ง หาาาา!!! ไม่เห็นรู้เลยว่าเนยมันสีไม่เหมือนกัน (ถ้าไม่ใช่เพราะคนละยี่ห้อ คนละชนิดแล้วเพราะอะไรล่ะ!)
เราและเพื่อนๆในคลาสก็ร่วมด้วยช่วยกันเดา อย่างเอาจริงเอาจัง คือเชฟจะไม่บอกมาตรงๆ แต่จะตั้งคำถามให้พวกเราได้คิดและหาคำตอบ เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เราไม่ลืมคำตอบนี้แม้จะเลิกคลาสไปแล้วก็ตาม

อ่าาา ใช่จริงๆด้วย
เรายังจำคำตอบของเชฟได้เป็นอย่างดี แล้วเพื่อนๆล่ะคะ คิดว่า อะไรที่ทำให้เนยมีสีไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง แม้จะมาจากแหล่งผลิตเดียวกันก็ตาม (หาคำตอบกันเองนะคะ จะได้ไม่ลืมคำตอบแม้จะอ่านบทความนี้จบแล้วก็ตาม อิอิ)


หลังจากที่เชฟอุ่นเครื่องด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกันพอประมาณแล้ว เราก็จะเข้าสู่การดูเชฟสาธิตการทำขนมแล้วล่ะค่ะ

รู้มั้ยคะว่าการเป็นเชฟ ต่างจากการเป็นกุ๊กยังไง สาธิตไป สาธิตมา เชฟ Frederic ก็ตั้งคำถามกับพวกเราอีกแล้ว แต่ครั้งนี้เชฟไม่รอคำตอบของพวกเราแล้ว (สงสัยเห็นหน้าพวกเราเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม 555) เชฟตอบคำถามของตัวเองว่า " เชฟนั้นเป็นเรื่องของการจัดการเวลา ส่วนกุ๊กนั้นคอยทำตามคำสั่งไงล่ะ (โดยเฉพาะ french pastry เลยล่ะ) ที่การจัดการเวลานั้นเป็นเรื่องสำคัญมากกกก เพราะว่าส่วนประกอบของเค้กฝรั่งเศสนั้น มีมากมายหลายแบบ บางอย่างต้องรอให้เย็น แต่บางอย่างต้องทำตอนร้อน ในขณะที่บางครั้งเอาแค่พอไม่ร้อนก็ต้องนำมาทำแล้ว" เห็นมั้ยคะ เค้กไม่ใช่หมู มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ อย่างเค้กที่เรากำลังทำในวันนี้ก็มีหลายส่วนประกอบค่ะ


มีทาร์ตเป็นฐาน ตามด้วย ชั้นของ almond-pistachio cream ที่อบคู่กัน  ก่อนจะทาทับด้วยสตรอเบอร์รี่ puree  แล้ววางซ้อนด้วย coconut mousse หรือว่ามูสมะพร้าวนั่นเอง ก่อนจะตกแต่งด้วยสตรอเบอร์รี่สด ให้สวยงาม ซึ่งเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นเบสิค อยู่เลยค่ะ ยังไม่ยากมาก

 นี่ขนาดbasic นะเนี่ย เราเกือบทำพลาดไปหลายขั้นตอนเลยล่ะ ในตอนแรกนั้นเชฟจะสาธิตให้ดูก่อน แล้วหลังจากนั้นเราก็ต้องทำตาม โดยจับคู่กันทำค่ะ

อย่างเราไปคนเดียวก็จับคู่กับคนที่ยืนข้างๆ ได้เพื่อนมาเพิ่มด้วย (เค้าอยากคู่ด้วยป่าวไม่รู้นะ 55)  นักเรียนในห้องก็จะมีทั้งคนไทย และต่างชาติค่ะ อย่างเพื่อนใหม่เราวันนี้ก็มาจาก ฟิลิปปินส์ (พอดีเค้ามาเที่ยว เลยแวะมาเรียนทำขนมด้วยซะเลย)

บางขั้นตอนเราก็ทำคนเดียว แต่บางครั้งก็ช่วยกันทำกับ partner ค่ะ

                                        เชฟกำลังอธิบายการผสมมูสด้วยท่าที่ถูกต้อง

 

เพราะที่สุดแล้วการเรียนรู้ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้องเรียน....

แต่ห้องเรียนห้องนี้สอนให้เราไม่หยุดที่จะเรียนรู้