103+ factory โรงงานขนมหวานเกินร้อย ทำไมต้องร้อยสามล่ะ
"everything should be made as simple as possible but not simpler" Albert Einstein
ไอนสไตน์เคยกล่าวไว้เช่นนี้ค่ะ เป็นข้อความสุดคลาสสิคที่ถูกส่งต่อมานับร้อยปี ที่ฟังกี่ทีก็คอยเตือนใจเราอยู่ร่ำไป
วันนี้เราก็โดนสะกิด และย้ำเตือนอีกทีผ่านโน๊ตแผ่นเล็กๆที่ถูกวางอยู่ข้างๆขนมชิ้นน้อย...
ท่าม กลางถนนที่พลุกพล่านไปด้วยตึกสำนักงานน้อยใหญ่ จอแจไปด้วยผู้คนนับพัน เจริญหูเจริญตาด้วยสีสันของร้านค้า และร้านอาหารมากมายที่ทำให้ย่านนี้ยิ่งดึกก็ยิ่งดูคึกคัก ยังมีร้านขนมเล็กๆซ่อนตัวอยู่อย่างน่าค้นหา และที่นี่มีชื่อว่า 103+factory นั่นเองค่ะ โรงงานขนมที่ถูกก่อร่างสร้างตัวจากผู้ที่มีความฝันเดียวกันถึง 4 คน
ส่วน103+ นั้นมาจากอายุของทั้งสี่คนรวมกัน"พลัส"จำนวนตัวเลขที่อาจมากขึ้นในแต่ละปีนั่นเอง เข้าใจคิดมากๆเลยล่ะค่ะ
การ มาที่โรงงานแห่งนี้นั้นง่ายนิดเดียว แค่นั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี อารีย์ แล้วเข้าซอยพหลโยธิน 7 เลี้ยวขวาอีกทีตรงซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ เดินเข้ามายังไม่ทันได้เหนื่อยหรอกค่ะ เราก็จะเจอโรงงานขนาดกะทัดรัด ที่โดดเด่นด้วยกันสาดลายขวางสีขาวสลับดำ มีป้ายไฟหน้าร้านขนาดใหญ่ มองเห็นมาแต่ไกลเลยเชียว กับกระจกใสบานใหญ่ที่เมื่อแอบส่องเข้าไปแล้วเห็นเรื่องราวในร้านได้อย่าง ชัดเจนเลยค่ะ
ส่วนพื้นที่ด้านข้างถูกออกแบบเป็นสวนแบบยุโรปที่ถูกย่อส่วนลงมาอย่างน่าเอ็นดู๊...น่าเอ็นดู
ผนัง ปูนสีขาวที่มีเถาวัลย์ใบไม้สีเขียวเลื้อยเราะเกาะขึ้นมาราวกับภาพแต่งฝาผนัง นั้นทำให้ชุดโต๊ะเก้าอี้เหล็กดัดที่มีสีดำเข้ม ดูโดดเด่นเหมือนกำลังเชื้อเชิญผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาให้เข้ามานั่งพักจิบน้ำ ชายามโพล้เพล้เช่นนี้ ก่อนจะตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด ที่มีตุ๊กตาปูนปั้นลายกามเทพตัวน้อยคอยสร้างสีสันให้สวนนี้ยิ่งดูน่ารักขึ้น อีกเยอะค่ะ
ถึง แม้ภายนอกอาจจะดูหรูหรา(แบบกะทัดรัด) แต่ภายในร้านนั้นกลับตกแต่งอย่างอบอุ่น ราวกับนั่งอยู่ที่บ้าน รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ถูกแต่งแต้มอยู่เต็มร้าน อย่างเป็นกันเอง ด้วยสีแบบอ่อนๆที่สร้างบรรยากาศเบาๆ
ให้ เราเข้ามานั่งแบบชิว และในขณะที่เรากำลังชิวกับบรรยากาศที่เบาๆนั้น เค้กที่เรียงรายอยู่เต็มตู้นั้นก็สร้างความหนักใจแบบเบาๆให้เราไม่น้อยเลยที เดียวนะคะ กับราคาเค้กแบบ 103+++
วันนี้ เราเลือกกิน double choc crepe cake (120บาท) เนื้อเครปช็อกโกแลตแผ่นบางที่ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ สลับกับชั้นครีมช็อกโกแลต เสริ์ฟมาในจานยาวสีขาวพร้อมกับซอสกาแฟที่ผสมถั่วเม็ดเล็กๆ เพื่อให้ทานคู่กัน ช้อนไม้คันน้อยแบบญี่ปุ่นก็ถูกวางมาในจานเช่นเดียวกัน
พร้อม กับข้อความเล็กๆจากไอสไตน์ว่า "everything should be made as simple as possible but not simpler"ความน่ารักเล็กๆที่ทางร้านส่งต่อ มาให้เราอย่างอบอุ่น จนเราแทบอดใจชิมขนมที่เรียบง่ายแต่น่ากินชิ้นนี้ไม่ไหวแล้ว
และ ทันทีที่เครปเค้กแผ่นแล้วแผ่นเล่าที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆถูกราดด้วยซอสกาแฟจน ชุ่มฉ่ำได้ที่ เราก็รีบยัดมันเข้าปากอย่างไม่รีรอด้วยช้อนไม้คันจิ๋ว อันที่จริงเราอยากได้ส้อมสแตนเลสธรรมดามากกว่านะคะ ดังที่ไอสไตน์ได้กล่าวกับเรามาตั้งแต่ต้นแล้วว่า
"ทุกอย่างควรทำแบบเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ..."
ความนิ่มของเครปที่ราวกับจะละลายในปากสร้างความประทับใจให้เราในครั้งแรก
แต่ นอกจากความนิ่มของแผ่นเครปกับความกรุบกรับของถั่วแล้วเราไม่สามารถรับรสกาแฟ หรือแม้แต่ double chocolate นั่นได้เลย ครีมที่แทรกตัวอยู่ตามชั้นเครปนั้นเบาราวกับมีเพียงแค่ผงโกโก้ผสมกับครีมสด เท่านั้น ส่วนซอสกาแฟนั้นถ้าได้รสกาแฟชัดเจนอีกสักหน่อย คงจะทำให้เครปเค้กชิ้นนี้มีรสชาติขึ้นมาอีกไม่น้อยเลยทีเดียวเชียวนะคะ แต่มันอาจจะเรียบง่ายเกินไปรึป่าวน้า....
หลังจากเต็มอิ่มกับความเบาและบางของเครปเค้กไปแล้วเราจึงหันไปหาเครื่องดื่มมาจิบบ้างอย่าง Ice Green tea (65บาท )
น้ำ ชาเขียวเย็นในแก้วใบใสที่อัดแน่นไปด้วยน้ำแข็งหลอด ขนาดพอดีคำ กลิ่นชาเขียวติดลิ้นมาน้อยนิดพร้อมกับความขมอีกเล็กน้อย แล้วก็จางลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคำถามอีกนิดหน่อยว่าน้ำชาเขียวนั้นกลายเป้นน้ำกลิ่นชาเขียวไป ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ยยยยย
แล้วเราก็ยังไม่หนำใจขอเดินไปซื้อมาการองมากินอีกสักชิ้น
โดยเลือกเป็นรสเปรี้ยวของผลไม้อย่าง passion fruit (45บาท) มากินปิดท้ายมื้อเรียบง่ายแบบเบาๆ ด้วย
มา การองฝาสีฟ้าไส้สีเหลืองที่ดูแสนจะจิ๊ดจ๊าดชิ้นนี้แหละค่ะ เป็นมาการองที่ขาค่อนข้างสูงพอสมควรอ่ะค่ะ ตรงกลางมีเนื้อพอให้เคี้ยวนิดๆเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นว่ามีเนื้อแค่ตรงขาของมาการองเท่านั้นเอง รับรู้ได้ตอนระหว่างที่กินอยู่นั้นแอบมีเกร็ดน้ำตาลเล็กๆซ่อนอยู่ด้วยค่ะ ทำให้มาการองค่อนข้างหวานไปนิดนึงสำหรับเรา ส่วนใส้นั้น เป็นครีมรสเสารสที่เอาจริงๆถ้าไปบอกเราคงไม่รู้อ่ะ แต่ได้รสเปรี้ยวนิดๆนะคะ แบบเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย
สำหรับเราแล้วขนมเค้กที่เรา คลั่งไคล้นั้นเกิดจากส่วนประกอบพื้นฐานที่แสนจะธรรมดาอย่างแป้ง ไข่ นม น้ำตาล แต่บางสิ่งที่เรียกว่า"ความใส่ใจ" นั้นเอาความธรรมดาทั้ง 4 อย่างนั้นมารังสรรค์เป็นขนมเค้กที่สร้างแรงบันดาลใจบางอย่างให้เราอย่างที่ เรียกว่า "ธรรมดา" ไม่ได้เลยจริงๆ ขนมเค้กที่ทำอย่างเรียบง่ายแต่ก็ไม่ง่ายจนเกินไปนักจึงสามารถประทับใจเราได้ ทุกครั้งเลยจริงๆ
แต่งร้านบรรยากาศน่ารักเกินร้อยไปแล้ว....
ขอขนมและเครื่องดื่มอร่อยเกินร้อยด้วยจะดีมากเลยค่ะ !!