A Journey การเดินทางสู่กาแฟในฝันซักแก้วต้องทำไงบ้าง

พวกเราทุกคนล้วนชอบเดินทาง..ผมว่าแบบนั้นนะ และหลายคนก็พูดว่าจุดมุ่งหมายนั้น
ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด

แต่การเดินทางต่างหากที่คือความสุขที่แท้จริง เป็นคำพูดที่คมมากๆ

บางคนก็ชอบเดินทางใกล้ คือเอาใกล้เข้าว่า สะดวกสบายคือความสุขีปีโป้ที่สุดแล้ว

อีกหลายๆคนก็ชอบเดินทางไกล เพราะมีเรื่องราวมากมายให้ได้ค้นหาระหว่างการเดินทาง ที่นำไปสู่จุดหมาย ที่อาจจะไม่ได้ลึกซึ้งกินใจเท่ากับสิ่งที่ได้รับ และซึมซับเรื่อยๆระหว่างการเดินทางนั้น ที่เรียกว่า A journey is more important than the destination นั่นเอง

เดินทางใกล้....ก็เปรียบดั่ง สบายๆ ถูกใจก็คบกันไป แล้วเธอก็คงเข้าใจ เรียนรู้กันไป จะทุกข์จะสุขเพียงไหน ....แต่ก็ยังสบายยยย

ส่วน เดินทางไกล....ก็มีเรื่องราวมากมายให้เล่าสู่กันฟัง เธอลำบากอะไรไหม เธอสู้ไหวหรือเปล่า ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้มั้ย อะไรทำนองนี้

ส่วนจะรู้ได้ยังไงว่าต้องเดินทางไกลแค่ไหน....

คงอยู่ที่ว่าการเดินทางนั้น..มีจุดมุ่งหมายคืออะไร ถ้าเป็นสถานที่ เราคงรับรู้ได้ง่ายว่าไกลหรือใกล้

แต่ถ้าเป็นการเดินทางไปสู่กาแฟดีๆซักแก้วล่ะก็ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเดินทางอีกไกลแค่ไหน หรือใกล้นิดเดียวก็เจอ

และจะรู้ได้อย่างไรว่า.....ไกลแค่ไหน คือใกล้


วันนี้ผมเดินทางมาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า A Journey ถ้าวัดเป็นระยะทาง ถือว่าใกล้นิดเดียว แบบว่ายังสบายยยย แค่ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ก็ถึงแล้ว เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นานนะครับ เพราะผมเองก็อยู่แถวนี้ เรียกว่าร้านไหนเปิดใหม่ก็รู้แทบจะในทันที


คอนเซ็ปต์ของร้านนี้ก็ตามชื่อร้านครับ A Journey คือแต่งร้านแบบมีของสะสมจากทุกมุมโลก ออกแนวไปมาแล้วหลายที่ แต่แม้จะมีของโชว์ให้พอรู้ว่าเก็บมาตอนไปเที่ยว London Paris Tokyo Africa etc. แต่การตกแต่งโดยรวมจะเป็นแบบเอาของเหล่านี้มายำรวมๆกันพอกรุ่บกรั่บ



จริงๆก็ไม่เหมือนยำซักเท่าไหร่ ออกแนว ตำซั่ว มากกว่าที่จะเป็นแบบฟูจิเบ็นโตะเซ็ต พอเข้าใจมั้ยครับ คือวางรวมๆมุมโน้นมุมนี้ ไม่มีการจัดเป็นหมวดหมู่เดียวกันอยู่ด้วยกัน แบบว่ามุมนี้ปารีส มุมนี้โตเกียว อะไรแบบนี้

แต่ผมไม่ได้บอกว่า ตำซั่ว ไม่อร่อยนะครับ แค่บรรยายให้เห็นภาพก็เท่านั้นเอง



มาดูมุมขนมกันบ้าง มีเค้ก คุกกี้ เพสตรี้ และขนมจุบจิบให้พอชื่นใจ บราวนี่จะราคาถูกที่สุด เพียงชิ้นละ 15 บาท แต่เค้กนี่ค่อนข้างแพง ร้อยกว่าทั้งนั้น




เอาล่ะ ผมสั่งเครื่องดื่มมา 2 แก้ว เริ่มด้วย Butterfly peas lemon tea เสริฟมาในแก้วที่เล็กจริงๆ


เป็นชามะนาวอัญชันนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าลืมใส่อัญชันมาให้รึเปล่าในแก้วนี้ หรือรสชาตินี้เป็นไปตามปกติมาตรฐานของทางร้านทุกประการ กลิ่นอัญชันค่อนข้างอ่อน ชามะนาวที่ก็ไม่ค่อยเปรี้ยวอีก และปริมาณเล็กจิ๋วแบบนี้ก็ต้องค่อยๆจิบเพื่อรองรับกับเวลานั่งชิว ทำให้รสชาติยิ่งเบาหวิวเข้าไปอีก

ดูเหมือนผมไม่ค่อยโอเคกับมันซักเท่าไหร่ใช่มั้ยครับ และคุณเข้าใจถูกต้องแล้ว

ต่อไปก็มาถึงเป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้ การเดินทางสู่กาแฟดีๆซักแก้ว และแน่นอนว่าผมสั่งกาแฟ Iced Cappuccino ซึ่งทางร้านบอกว่าขายดีคนชอบสั่ง
 


จะพูดยังไงดี รสชาติของกาแฟคงจะดีไม่ใช่น้อย ถ้าไม่ทำหวานไปหน่อยแบบนี้น่ะ มันเป็นความหวานที่ไปกดรสชาติกาแฟที่ดูจะหอมทีเดียวเอาไว้ ไม่ให้มันหอมขึ้นมา ทำไมคุณอยากจะทำแบบนั้นกับเมล็ดกาแฟดีๆล่ะ นั่นสินะ แต่ที่แน่ๆผมก็ไม่รู้คำตอบเหมือนกัน จริงๆแล้วพูดกันตรงๆว่าเรามีทางเลือกอีกมากมาย เช่น อาจจะใส่นมข้นหวานน้อยกว่านี้ และถ้ามีผู้ใดต้องการความหวานมากกว่าคนทั่วไปที่เป็นคอกาแฟจริงๆแล้วเนี่ย เราแค่เอาน้ำเชื่อมให้เค้าผู้นั้นไปเติมเอาเองก็ได้นะครับ

ฟองนมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคาปูชิโนก็ทำได้ดี ในแง่ของความมันส์ แต่ทำไมมันต้องหนากว่าครึ่งแก้วผมก็ไม่รู้เหมือนกัน การหาเหตุผลในเรื่องแบบนี้มันก็เหมือนคุณงมเข็มในมหาสมุทรนั่นแหละ นอกจากไม่เจอแล้วอาจจะเสียเวลาโดยใช่เหตุ บางทีก็สงสัยว่าเราจะกินกาแฟหรือฟองนมกันแน่ ถ้าเครื่องดื่มแก้วนี้มันชื่อ Iced milk with coffee ล่ะก็ผมจะไม่ว่าอะไรซักคำ

ก่อนที่ผมจะถล่มมันไปมากกว่านี้ (ไม่ทันแล้วมั้ง) เรามาพูดถึงขนมดีกว่าครับ ซึ่งไม่มีอะไรจะพูดซักเท่าไหร่ เพราะสั่งมาแค่ Almond Brownie ชิ้นละ 15 บาท


ไม่ค่อยจะเป็นบราวนี่ซักเท่าไหร่ แต่ก็กินได้เรื่อยๆ เหมือนเค้กกล้วยหอม แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างถูก เราจะไม่วิจารณ์อะไรเยอะนะครับ และเท่าที่ดูขนมและเค้กก็ดูไม่ใช่สิ่งที่ทางร้านเน้นซักเท่าไหร่


โดยรวมแล้วผมคงพูดว่า ถ้าคุณต้องการ A journey ล่ะก็ ที่นี่ใกล้ๆเดินทางสะดวก มีขนมและเครื่องดื่มให้ระหว่างการเดินทางของคุณ แม้ว่าราคาอาจจะสูงไปหน่อย และยังมีภาษีเดินทางแบบ Service charge และ vat อีก การเดินทางครั้งนี้จึงอาจจะใช้ทุนเยอะนิดนึง ไม่ใช่แบบ backpack นะครับ แต่ถ้าคุณโอเคดีกับการเดินทางที่เน้นสถานที่สวยๆ แอร์เย็นฉ่ำ มีมุมถ่ายรูปเยอะๆล่ะก็ ที่นี่ก็จะโอเคดีสำหรับคุณเช่นกัน

ส่วนผมก็คงต้องขอตัวไปเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางต่อไปก่อนนะครับ สู่กาแฟ "แก้วนั้น" ที่ไม่รู้จะต้องเดินทางไปอีกไกลแค่ไหน หรือมันอาจจะอยู่ใกล้ๆแต่ยังหาไม่เจอ อาจจะใกล้ หรือไกล ก็ยังไม่รู้

รู้แต่ว่า.....การเดินทางสู่กาแฟดีๆซักแก้วไม่เหมือนการเดินทางธรรมดานะครับ

เพราะเป็นการเดินทางที่เราไม่มีวันรู้ว่า......ไกลแค่ไหนคือใกล้

แต่ไม่เป็นไรครับ ถ้าเส้นทางที่ว่ามันยังอีกไกล ยังลำบากอะไรไหม หรือผมจะยังสู้ไหวหรือเปล่า

ยังไงจะไม่ลืมมาเล่าสู่กันฟังนะครับ