โพรงกระต่ายชื่อ Casa Lapin เสพความสงบให้โลกรู้
ข้างบ้านตีกัน หมาคลอดลูก แมวร้องหาคู่ มอเตอร์ไซค์แวนท์ ตั้งวงเหล้าหน้าบ้าน คาราโอเกะเถื่อน .....ฯลฯ และอีกสารพัดเสียงที่รบกวนคุณจากช่วงเวลาอันแสนสงบที่คุณต้องการ
หากเสียงเอะอะและความจอแจเจี๊ยวจ๊าวแบบไม่มีขีดจำกัดเหล่านี้เกิดขึ้นในขณะที่คุณกำลังนั่งดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตัดขนหมา จีบสาวผ่านไลน์ ต่อ wifi เล่นเฟสบุ๊ค หรือแม้แต่ตอนที่มือนึงอัพรูปลงอินสตาแกรมในขณะที่อีกมือนึงกำลังราดน้ำผึ้งหวานเจี๊ยบลงบนราชันแห่งขนมหวานอย่างขนมปัง Honey Toast ล่ะก็....มันคงไม่ใช่ปัญหา
ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมเหล่านี้ที่น่าสะอิดสะเอียน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการความสงบและช่วงเวลาอันแสนจะเป็นส่วนตัว เพื่อทำงาน คุยปรึกษากับหุ้นส่วน อ่านหนังสือ จิบกาแฟ หรือแม้แต่มุมเงียบๆเพื่อจู่จี๋กับแฟนแล้วล่ะก็.....
Bakegazine TV Direct ขอเสนอ.....โพรงกระต่ายสารพัดประโยชน์ !!
ที่ซึ่งคุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวเป็นที่สุด มุมเงียบๆ ไฟสลัวๆ มีเสบียงพอสำหรับกระต่ายทุกตัว ข้างในมีแต่กระต่ายที่ต้องการความสงบ......และเสียงอึกทึกครึกโครมทั้งหลายจะหมดไป !!
เมื่อคุณใช้ โพรงกระต่ายสารพัดประโยชน์ !!
โอ้....พระเจ้า จอร์จ มันยอดมากกกกกก.......
แต่เดี๋ยวก่อน !! ถ้าคุณโทรมาภายใน 5 นาทีนี้ คุณยังจะได้รับ ชุดอุดหูสารพัดประโยชน์ ที่จะทำให้ช่วงเวลาอันแสนสงบกลับคืนมา โทรหาเราตอนนี้ที่ 02-xxx-xxxx
ไอ้บ้า !! ไม่ใช่แล้ว นั่นมัน TV Direct
.................................................................
ลืมเบอร์ TV Direct ไปก่อนและกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่แสนจะจอแจ......และด้วยความบังเอิญ ผมเจอโพรงกระต่ายสุดหรู ซึ่งว่ากันตามตรงก็เป็นโพรงที่สามแล้ว ต่อจากสองโพรงแรกแถวถนนสุขุมวิท โพรงกระต่ายสุดหรูแห่งนี้อยู่ที่ซอยอารีย์ (พหลโยธิน 7) และมันมีชื่อว่า Casa lapin ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะความหมายของมันก็คือ โพรงกระต่าย หรือบ้านกระต่ายนั่นเอง
หาง่ายมากครับ อยู่ต้นซอยอารีย์และถ้าเดินเข้าซอยมาแล้วคุณไม่เห็นตึกนี้ที่มีชื่อว่า Noble Reform คุณควรโทรหาช่างตัดแว่นของคุณโดยด่วน ถ้ายังไม่มีก็รีบหาซักร้านนะครับ หรือไม่ก็อาจจะเป็นที่โพยหรือแผนที่หรืออะไรก็ตามที่คุณถือมาเพราะเป็นไปได้ว่าคุณไปผิดซอย....
และถ้าเห็นตึกนี้แล้วยังมองไม่เห็นร้าน Casa Lapin แล้วล่ะก็ คุณควรนั่งเฉยๆอยู่กับบ้านเพราะข้างนอกมันอันตรายเกินไปสำหรับคุณ ผมหมายถึง ร้าน Casa Lapin จะตั้งอยู่ในจุดที่คุณมองเห็นได้อย่างง่ายดายเป็นที่สุด และเป็นไปได้สูงทีเดียวที่คุณจะมองเห็นร้านก่อนเจอป้าย Noble Reform อะไรนี่ซะอีก....
เอาล่ะ !! เมื่อเจอร้านแล้ว ก่อนที่คุณจะเข้าไปผมอยากให้คุณสำรวจเงินในกระเป๋าซักหน่อย เพราะอย่างที่บอกว่าที่นี่คือโพรงกระต่ายสุดไฮโซ ไม่ใช่โพรงกระต่ายซอมซ่อที่มีแต่ใบไม้ใบหญ้า กิ่งไม้แห้ง แครอทค้างคืน หรือไส้เดือนตัวเล็กๆ คุณคงพอจะนึกออกนะครับว่าผมหมายถึงอะไร คุณคงไม่อยากเปิดประตูเข้าไปยืนทำหน้าเห่ยๆ หน้าเคาน์เตอร์แล้วสั่งได้แต่คุกกี้ถั่วลิสงจืดๆกับน้ำเปล่าหรอกนะครับ เป็นผมล่ะก็ผมคงไม่อยากจะทำแบบนั้น
โพรงกระต่ายมีเวลาเปิด-ปิดด้วยนะครับ เปิดเช้าและปิดดึก แม้ว่าจะนอนค้างคืนที่นี่ไม่ได้มันก็ยังดูเป็นส่วนตัวอยู่ดี และถ้าคุณเป็นกระต่ายซักตัว เอ่อ ผมหมายถึงพวกที่รักความสงบ ชอบความเป็นส่วนตัว เบื่อเสียงอึกทึก อะไรแบบนั้นน่ะครับ คุณก็น่าจะชอบโพรงกระต่ายแน่ๆ ที่ซึ่งจะมีแต่คนแบบคุณอยู่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด และเมื่อทุกคนชอบความสงบ อะไรจะเกิดขึ้นได้ล่ะถ้าไม่ใช่ความเงียบสงบว่ามั้ย
แต่ก่อนที่ผมจะมองโลกในแง่ดีเกินไปกว่านี้เราไปหาคำตอบกันดีกว่าครับว่าที่นี่ จะใช่โพรงกระต่ายในตำนานสำหรับผมหรือคุณรึเปล่า
เปิดเข้ามาก็จะเจอกับโต๊ะกลาง เป็นโต๊ะที่กระต่ายจะนั่งรวมๆกัน เหมาะสำหรับกระต่ายที่ถวิลหาความสงบไม่มาก หรือไม่ก็โต๊ะอื่นเต็ม ร้านจะค่อนข้างใช้แสงแดดธรรมชาติ ไม่เปิดไฟสว่างเกินไปนัก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราควรจะได้รับจากโพรงกระต่าย คือบรรยากาศสำหรับการพักผ่อน และจากโต๊ะกลางเราก็จะเจอกับเคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นจุดสั่งขนมและเครื่องดื่มครับ
แน่นอนครับว่าคุณต้องอุดหนุนอะไรกับเค้าบ้างก่อนที่จะมานั่งหามุมดีๆเพื่อทำงาน อ่านหนังสือ หรือคุยกัน และที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟบดเองคั่วเอง และขนมที่ไม่ได้ทำเองแต่รับมาจากร้านดังหลายร้านมารวมกัน ใครจะแคร์ล่ะ ไม่ว่าคุณจะรับอะไรมาจากร้านไหน หรือแม้แต่ทำเอง ตราบใดที่มันอร่อยพวกเราทุกคนก็จะโอเคกับมัน
ต้องบอกว่าขนมมีเยอะมาก และเหมาะสำหรับกระต่ายเป็นที่สุด เพราะชิ้นเล็กจิ๋ว และมีราคาค่อนข้างสูงซึ่งเหมาะสำหรับกระต่ายประเภทไฮโซเท่านั้น กระต่ายบ้านๆอาจจะทำได้แค่เดินดูทำตาปริบๆ และไม่จำเป็นที่จะต้องเก่งคณิตศาสตร์คุณก็สามารถคำนวณได้ว่าราคากับปริมาณขนมที่วางอยู่นั้นไม่สมดุล และส่วนที่ไม่สมดุลนั้นน่าจะเป็นค่าแต่งร้านซะเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็บริการพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา
อาจจะเป็นค่าดอกไม้ตรงนี้
หรือบริการพิเศษแบบนี้
และแบบนี้
กาแฟดีๆช่วยเราได้เสมอ และกระต่ายก็ต้องการความอบอุ่นเช่นกัน แต่ฤดูนี้ไม่ใช่หน้าหนาว อากาศภายนอกที่ร้อนจัดทำให้เราสั่งกาแฟเย็นดื่มได้อย่างไม่เคอะเขินแม้ภายในร้านจะเปิดแอร์ก็ตาม และผมเลือก Iced cappuccino เช่นเคยเพราะเป็นเมนูยอดฮิต ถ้าคุณเปิดร้านกาแฟและทำคาปูชิโนได้อร่อยกว่าที่อื่นคุณก็จะไม่เจอปัญหาอย่างอื่นอีกเลย และ Iced cappuccino ที่นี่แก้วละ 95 บาท ก่อนที่จะเลือกขนมมาหนึ่งชิ้น และเมื่อไหร่ก็ตามที่คนขายบอกว่าชิ้นนี้เป็นสินค้าขายดีของร้านผมมักจะเชื่อเค้าเสมอ และสำหรับที่นี่มันก็คือขนมที่มีชื่อเรียกว่า Torta Caprese ซึ่งก็คืออัลมอนด์บราวนี่ชิ้นจิ๋วชิ้นนี้ ราคา 95 บาท
กาแฟที่นี่เป็นแบบให้ปรุงเอง ผมหมายความว่าแค่ใส่น้ำเชื่อมเองน่ะครับ เชื่อผมสิว่ามันไม่ได้ยากเกินไป ตราบใดที่คุณรู้ว่ากาแฟเย็นที่รอการเติมน้ำเชื่อมนั้นมีรสชาติเป็นยังไง และน้ำเชื่อมที่คุณกำลังจะใส่นั้นหวานแค่ไหน และพนันได้เลยว่าคุณไม่รู้รสชาติของทั้งคู่ และไม่มีใครกล้าที่จะชิมมันก่อนปรุง เอาล่ะพวก!! มันคือการเสี่ยงดวง และถ้าคุณทำแบบนั้นโอกาสที่คุณจะได้กินกาแฟดีๆและรสชาติที่ถูกปากคงเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก
ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ สิ่งที่ผมแนะนำก็คือ ชิมมันซะ !! และไม่ว่าใครจะกำลังมองคุณอยู่ อย่าไปแคร์ พวกเค้าไม่ได้ออกค่ากาแฟให้คุณแม้ซักบาท เชื่อผมเถอะว่าคุณคงไม่อยากใช้เวลาที่เหลือในร้านไปกับการจิบกาแฟกร่อยๆที่หวานเจี๊ยบหรือไม่ก็จืดชืดอย่างกับน้ำเปล่า เป็นผมล่ะก็คงไม่ทำแบบนั้น
นอกจากจะมีน้ำเชื่อมแล้ว ก็ยังมีน้ำตาลสำหรับกาแฟร้อนอีกด้วย และมุมนี้คือ น้ำตาลในขวดทดลอง และไม่ว่าจะน้ำเชื่อมหรือน้ำตาล การทดลองก็ยังคงดำเนินต่อไป และคุณต้องการปาฏิหาร์ยสำหรับรสชาติกาแฟที่พอดี
หลังจากเติมน้ำเชื่อมแล้ว ในที่สุดผมกลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมกาแฟเย็นที่หวานไปกว่าที่ผมต้องการ พวกเรารู้ดีว่าน้ำเชื่อมเข้มข้นจะมีอัตราการละลายในน้ำเย็นค่อนข้างช้าและนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงชิมกาแฟไปแล้วกว่าครึ่งแก้วในขณะที่พยายามเติมน้ำเชื่อมกว่าจะรู้ว่ามันควรจะพอรึยัง
แต่ก่อนที่ผมจะบ่นอะไรไปมากกว่านี้ อยากจะบอกว่าข้อดีของกาแฟที่นี่ก็คือความหอมของกาแฟที่ได้รับ อันนี้ต้องขอชมเชยว่าคั่วกาแฟได้ดีครับ เป็นอย่างนึงที่โอเคและทำดี..ก็ได้ดีไป
ต่อไปก็เป็นขนม Torta Caprese ซึ่งทางร้านบอกว่าเป็นสินค้าขายดี ถ้าคนส่วนใหญ่คิดแบบนั้นผมก็อยากจะลองชิมซักหน่อย
ความเห็นของผมก็คือ เป็นอัลมอนด์บราวนี่ที่เหมือนเค้กกล้วยหอม และหวานเกินไป ไม่ใช่อะไรๆก็จะตินะครับ แต่นี่คือรสชาติจริงๆที่พูดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย บราวนี่ที่ไม่มีส่วนผสมที่เป็นช็อกโกแล็ตซักนิดน่ะไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ถ้าไม่มีรสชาติของอัลมอนด์ด้วยแล้วขนมชิ้นนี้จะเป็นอะไรล่ะครับ เมื่อไม่เป็นทั้งบราวนี่และอัลมอนด์รสชาติก็จบกัน จริงๆถ้าใส่อัลมอนด์เยอะกว่านี้คงทำให้มันดูดีขึ้นเยอะ และด้วยความที่ชิ้นเล็กและแพงทำให้เราคาดหวังกับมันยิ่งขึ้น และในกรณีนี้มันสอบตก ซ้ำชั้นด้วย ส่วนจะซ้ำชั้นกันทั้งตู้รึเปล่าไว้ถ้าได้ชิมชิ้นอื่นอีกจะบอกแล้วกันนะครับ
วันที่ผมไปต้องถือว่ากระต่ายเยอะพอสมควร และโพรงกระต่ายสุดหรูแห่งนี้ก็มีวันเต็มเช่นกัน เมื่อมีใครจ้องหาที่เลิ่กลั่กและมองมาที่คุณบ่อยๆ คุณก็ต้องช่วยพวกเค้า โดยเฉพาะถ้าคุณเหลืออาหารบนโต๊ะเพียงเล็กน้อย และเมื่อพนักงานมาเช็ดโต๊ะคุณบ่อยๆนั่นก็คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณควรเก็บข้าวของและออกจากโพรงกระต่ายนี้ไปได้แล้ว อย่าเข้าใจผิดนะครับพนักงานที่นี่อัธยาศัยดีทุกคน และเมื่อคุณมากันแค่ 2 คนมันก็ถึงเวลาที่ต้องหลีกทางให้กระต่ายตัวอื่นๆได้เสพความสงบที่นี่บ้าง
พูดถึงการเสพความสงบแล้ว ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี ไม่มีเสียงรบกวนจากภายบอกและภายใน กระต่ายทุกตัวค่อนข้างรู้หน้าที่ของตัวเอง บ้างก็ทำงาน อ่านหนังสือ คุยกันเบาๆ เล่นไอโฟน และไม่มีการติวหนังสือจากโรงเรียนกวดวิชานอกสถานที่แบบร้านอื่นๆ ผมรู้สึกว่าทุกคนให้ความร่วมมือในการก่อความสงบกันเป็นอย่างดี ไม่มีใครต้องได้รับการเตือน หรือถูกกระชับพื้นที่แต่อย่างใด นั่นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง แม้ว่าผมจะเบื่อกระต่ายบางตัวที่เอาแต่พลอดรักกันอยู่แบบไม่แคร์สายตาชาวบ้านก็ตาม
พูดถึงความสงบและบรรยากาศดีๆ ที่นี่มีให้เสพกันแบบล้นปรี่ แต่ไม่มีขนมดีๆซักเท่าไหร่ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่ากระต่ายทุกตัวจะต้องการอะไรเหมือนๆกัน บางตัวอาจจะต้องการแค่ที่นั่งทำงานเงียบๆหรือคุยกัน และบางตัวอาจจะต้องการขนมดีๆ คุณต้องการอะไรคุณก็ต้องไปหาสิ่งนั้น ถ้าคุณต้องการปลาคุณก็ต้องไปทะเล
สำหรับผมมันง่ายมาก ณ จุดนี้ผมต้องการแค่ชุดอุดหูดีๆ แล้วหาร้านที่มีขนมอร่อยๆราคาไม่แพงมาก ที่แม้ว่าอาจจะไม่สงบเท่าที่ Casa Lapin แต่ผมมั่นใจว่าในท้ายที่สุดแล้วนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ
ใครช่วยหาเบอร์ TV Direct ให้ผมที โทรตอนนี้ยังทันอยู่รึเปล่าครับ