Elysian โรงน้ำชาสไตล์โมร็อกโค ที่แสนไฮโซตามแบบฉบับผู้ดีหรูๆ

11:20:00 bakegazine 0 Comments



ขนมเค้กน่ะ มีเสน่ห์ที่ตรงไหนรู้มั้ยคะ ก็ตรงที่ความสวยที่ดูหรูหรา แล้วก็ยั่วยวนชวนน้ำลายไหลไงล่ะ
และสิ่งที่ทำให้เราหลงใหลมากมายนั้นไม่ใช่แค่ขนมเค้กหรอกนะคะ แต่เป็นความรู้สึกตอนที่ได้ถ่ายรูปคู่กับมัน ได้ซึมซับความสวยงามของบรรยากาศรอบๆตัว ได้มีเวลาที่ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบอะไรมากมาย เป็นความรู้สึกที่เหมือนทุกอย่างหมุนช้าลง แต่ความจริงแล้วกลับเดินเร็วขึ้น  และถ้าขนมเค้กที่เรากำลังละเลียดทานอยู่นั้น อร่อยล้ำด้วยล่ะก็ ความรู้สึกคงเหมือนเวลาที่หยุดหมุนเลยละมั้ง เอาละค่ะ วันนี้เราจะมาตามหาความรู้สึกที่ว่านี้กัน ว่าขนมเค้กของที่นี่จะพาเวลาให้หยุดหมุนได้รึป่าว 



ท่ามกลางตึกสูงใหญ่ของถนนสุขุมวิท เข้าซอย 49 แล้วหาคำว่า 49แยก1 ร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ เป็นตึกสีขาวเล็กๆ ด้านหน้าดูแล้วไม่โดดเด่นมากมายแต่กลับดึงดูดเราด้วยสวนหย่อมแบบย่อมๆ ที่เชื้อเชิญเราแบบตั้งใจ ไม่ว่าใครที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ต้องย่างเท้าก้าวเข้ามาอย่างแน่นอน

และเมื่อเราเดินผ่านสวนหย่อมแล้วเราจะพบกับประตูกระจกสีขาวที่ชวนให้เราค่อยๆเปิดเข้าไป และเมื่อเราเดินไปตามคำชวนแล้ว เราจะพบกับตู้เค้กที่มีเค้กชิ้นน้อยๆกระจุกกระจิ๊ก ราวกับเป็นอัญมณีอันเลอค่า ฝังตัวอยู่ในกระจกตรงหน้าเลยทีเดียว  ถัดไปเป็นเคาร์เตอร์ที่เชื่อมไปถึงห้องสีขาวเล็กๆที่เป็นแหล่งผลิตอัญมณีเหล่านี้อยู่ด้านข้าง


เรายืนออกันอยู่หน้าตู้เค้กเป็นเวลาพอสมควร เนืองจากลูกคณะเราเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูป(ตัวเอง) กับเฟอร์นิเจอร์ และบรรยากาศภายในร้าน เสมือนนางเอกมิวสิก ที่มีฉากหลังเป็นปราสาทสุดหรู โดยปล่อยให้หน้าที่การตัดสินใจทั้งหมดตกไปอยู่ที่ฝ่ายบัญชีคนเดียวของคณะ  ด้วยขนาดที่สวนทางกับราคาของขนมอย่างโหดร้าย กับงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ไม่อั้น และหลังจากฝ่ายบัญชีทำการเทกระเป๋าสตางค์แล้ว ลงความเห็นว่าควรจะรีวิวสองชิ้นก็น่าจะเกินพอ (ที่เกินน่ะคืองบประมาณนะคะ แหะๆ ) หลังจากเลือกแล้วเราก็พากันเดินขบวนขึ้นไปยังชั้นบน ห้องแรกที่เราเห็นเป็นห้องที่ตกแต่งสไตล์โมร็อกโค เน้นความเป็นฮาเร็มสุดหรู ดั่งเทพนิยายทะเลทรายชวนฝัน



ถัดขึ้นไปอีกชั้นเราจะพบกับอีกห้องนึงซึ่งการ ตกแต่งนั้นออกจะหรูหราแบบผู้ดีอังกฤษ ที่มองออกไปเห็นสวนสวย เป็นที่สำหรับออกไปจิบชายามบ่ายอย่างแท้จริง


หลังจากที่เราเพลิดเพลิน อยู่กับการถ่ายรูปกันพอประมาณ ขนมก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ชิ้นแรกนั้นก็คือ vanilla cream with strawberry 140 บาท 


เค้กชิ้นนี้เอาจริงๆ ความกว้างคูณความยาวน่าจะไม่เกิน 2*4 นิ้ว ถ้ากินกันจริงๆก็จะได้ประมาณ 3 คำ ตกคำละ 50 บาท แต่ถ้าค่อยๆจิบเค้กชิ้นนี้ก็จะกินได้นานขึ้นอีกนิดนึงล่ะนะ เค้กชิ้นนี้ใช้แครกเกอร์บดผสมกับเนยละลายเป็นฐานแล้วก็ใช้ครีมวานิลลาเป็น ตัวชูโรงโดยมีstrawberry เป็นใส้หลบอยู่ข้างในแล้วก็ตกแต่งด้วยเหล่าเบอรืรี่สด ตัวครีมนี่ค่อนข้างหวานค่ะ ในขณะที่ก็แอบได้กลิ่นนมนิดๆด้วย เวลากินต้องกินคู่กับพวกเบอรี่ที่อยู่ด้านบนควบคู่ไปด้วยค่ะ ส่วนstrawberry ด้านในที่มีลักษณะเหมือนแยมแต่รสชาติเหมือนบลูเบอ์รรี่กวนเลยอ่ะค่ะ ทำให้เค้กนี้จากที่หวานอยู่แล้วก็หวานขึ้นไปอีก เป็นเค้กที่เบาๆค่ะ และเนื่องจากกินไปไม่กี่คำก็จวนจะหมดอยู่แล้วทำให้รู้สึกว่าไม่ค่อยเลี่ยนดี ค่ะ ^_^ (หรือนี่คือหลักการทำเค้กแนวใหม่ให้กินเท่าไหร่ก็ไม่เลี่ยน)

ตัวต่อไปเป็น Raspberry Charlotte with berry 140บาทค่ะ


เค้กตัวนี้น่ารักมากเลยค่ะ เหมือนกล่องใส่เครื่องประดับสีชมพู ที่อัดแน่นไปด้วยอัญมณีมากมาย ถ้าจะมีใครสักคนแอบเอาแหวนเพชรใส่ลงไปด้วยล่ะก็คงจะไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะ เค้กตัวนี้ใช้ฐานเป็นเนื้อเค้กช็อกโกแลต บีบมูสบลูเบอรี่โดยซ่อนครีมสีเหลืองไว้ข้างใน ก่อนจะใช้ lady finger สีชมพู มาล้อมรอบ แล้วโรยด้วยเหล่าเบอร์รี่ด้านบน ปิดท้ายด้วยการพันริบบิ้นแล้วผูกโบว์อย่างน่ารักน่าเอ็นดู แปะทองคำเปลวเล็กน้อยเพื่อความหรูหรา สิ่งที่โดดเด่นมากๆของเค้กชิ้นนี้ก็คือตัวมูสค่ะ รสชาติเหมือนซูกัสสีม่วง รสองุ่นที่เราเคยกินตอนเด็กอ่ะค่ะ ส่วน lady finger ที่อยู่ด้านนอกก็รสชาติคล้ายๆขนมไข่ค่ะ นิ่มๆ เวลากินกับมูสแล้วก็ ดูมีอะไรให้เคี้ยวดีเหมือนกัน ส่วนครีมสีเหลืองที่ซ่อนอยู่นั้น เดาว่าน่าจะเป็นคัสตาร์ด(มั้ง) คือไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรสชาติโดยรวมแต่อย่างใดค่ะ และเช่นเคย เวลาทานก็อย่าลืมแอบคว้าเจ้าเหล่าเบอร์รี่มาด้วยนะคะ รสชาติโดยทั่วไปนั้นจัดว่าใช้ได้ค่ะ แอบจะธรรมดาไปนิ้สสสนึงสำหรับราคานี้อ่าค่ะ แบบว่าราคาสูง ความคาดหวังก็เลยสูงตามๆกันไปน่ะค่ะ แต่เอ๊...ถ้าเค้กสูงใหญ่ตามไปด้วยน่าจะดีไม่น้อยเลยนะค้าาา


ทานเค้กไป คุยกันไป เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เราได้ซึมซับบรรยากาศรอบตัวยอย่างเต็มเปี่ยม ถึงแม้ว่าเวลาจะไม่ได้หยุดหมุน แต่การมานั่งในร้านสุดหรูแบบนี้ กลับทำให้บางสิ่งหมุนไปอย่างไม่หยุด นั่นก็คือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสบายใจ และที่สำคัญที่สุด สตางค์ในกระเป๋าที่หมุนออกไปด้วยเช่นกันนนน
หรูหรา ไฮโซ ไม่ได้โม้ที่ Elysian tea house