Fill in the blank มาเติมคำในช่วงว่างที่ช่องนี้ อยากรู้ช่องอะไรยังไง เชิญ
แหมๆ ช่วงนี้วันหยุดมันเยอะจริงๆนะคะ มันก็เลยว่างมากจนไม่รู้จะเอาเวลาไปทำอะไรดี
เพิ่งได้หยุดยาวจากวันสงกรานต์ เที่ยวกันยังไม่ทันหายเหนื่อย ก็ได้หยุดวันแรงงานอีกแล้ว และตามมารัวๆด้วยวันฉัตรมงคง พืชมงคล วิสาขบูชาและไหนจะวันหยุดชดเชยอีก เรียกได้ว่าหยุดกันจนเหนื่อยเลยทีเดียว ดังนั้นช่วงนี้เราจะใจง่ายหน่อยนะ พอมีคนชวนออกมาข้างนอก ก็ตอบตกลงทันทีเลย (โดยเฉพาะชวนออกมากินขนมเนี่ย ปฏิเสธยากจริงๆนะ) ร้านที่เราจะไปมีชื่อว่า Fill in the blank ชื่อเก๋ไก๋มาก งั้นเรารีบไปกันเลยดีกว่าค่า ร้านที่ว่านี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ค่ะ เดินทางมาง่ายมากๆ
แต่การหาที่จอดรถช่างยากเย็นจริงๆ แนะนำว่า จอดที่ Major Ciniplex หรือไม่ก็พยายามหาที่จอดรถให้ได้ระหว่างทางที่เข้ามาก็ได้ค่ะ (ถ้าหาเจออ่ะนะ) แต่เราว่าไม่ต้องเอามาหรอก ขึ้น BTS แล้วลงสถานี เอกมัย ง่ายกว่าเยอะ เดินไกลหน่อย ถือว่าออกกำลังเนอะ จะได้มีข้ออ้างในการกินขนมไงเล่า เอาล่ะ !พอเข้ามาในซอยแล้ว เราก็จะมาหา คอนโด The Address กันค่ะ พอเจอแล้วให้มองทางขวาไว้ จะเห็นป้ายเล็กๆ เขียนชื่อร้านเอาไว้ ก็เลี้ยวเข้ามาเลย จะเจอร้านอย่างง่ายดาย ว่าแต่ใครที่ขับรถมา หาที่จอดรถกันได้รึยังเอ่ย ^^
เพิ่งได้หยุดยาวจากวันสงกรานต์ เที่ยวกันยังไม่ทันหายเหนื่อย ก็ได้หยุดวันแรงงานอีกแล้ว และตามมารัวๆด้วยวันฉัตรมงคง พืชมงคล วิสาขบูชาและไหนจะวันหยุดชดเชยอีก เรียกได้ว่าหยุดกันจนเหนื่อยเลยทีเดียว ดังนั้นช่วงนี้เราจะใจง่ายหน่อยนะ พอมีคนชวนออกมาข้างนอก ก็ตอบตกลงทันทีเลย (โดยเฉพาะชวนออกมากินขนมเนี่ย ปฏิเสธยากจริงๆนะ) ร้านที่เราจะไปมีชื่อว่า Fill in the blank ชื่อเก๋ไก๋มาก งั้นเรารีบไปกันเลยดีกว่าค่า ร้านที่ว่านี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ค่ะ เดินทางมาง่ายมากๆ
แต่การหาที่จอดรถช่างยากเย็นจริงๆ แนะนำว่า จอดที่ Major Ciniplex หรือไม่ก็พยายามหาที่จอดรถให้ได้ระหว่างทางที่เข้ามาก็ได้ค่ะ (ถ้าหาเจออ่ะนะ) แต่เราว่าไม่ต้องเอามาหรอก ขึ้น BTS แล้วลงสถานี เอกมัย ง่ายกว่าเยอะ เดินไกลหน่อย ถือว่าออกกำลังเนอะ จะได้มีข้ออ้างในการกินขนมไงเล่า เอาล่ะ !พอเข้ามาในซอยแล้ว เราก็จะมาหา คอนโด The Address กันค่ะ พอเจอแล้วให้มองทางขวาไว้ จะเห็นป้ายเล็กๆ เขียนชื่อร้านเอาไว้ ก็เลี้ยวเข้ามาเลย จะเจอร้านอย่างง่ายดาย ว่าแต่ใครที่ขับรถมา หาที่จอดรถกันได้รึยังเอ่ย ^^
ส่วนใครมาถึงแล้วก็ตามเราเข้ามาข้างในเล้ย พอเราเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอบรรยากาศร้านที่แสนจะอบอุ่น และเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านไร่ที่ไหนสักแห่งในยุโรปนี่แหละ
และเนื่องจากบรรยากาศร้านออกแนวคันทรี่นิดๆ ขนมเค้กจึงดูเรียบง่ายและ ไม่ฉูดฉาดตามไปด้วย เราสั่งเค้กและเครื่องดื่มอย่างรวดเร็ว(ไม่ใช่เพราะไม่มีอะไรให้สั่งหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่า คนเริ่มเข้ามากันเยอะแล้ว กลัวจะไม่มีที่นั่งน่ะ) ฝั่งตรงข้ามจากที่เรายืนสั่งขนมเมื่อกี้ จะเห็นเป็นห้องตู้กระจก ดูเป็นส่วนตัวดี มีวัยรุ่นทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ ถ้าวัยรุ่นเด็กๆหน่อยก็มักจะมาพร้อมกับหนังสือเรียนและกระเป๋าดินสอใบใหญ่ ที่มีปากกาหลายสีวางอยู่เต็มโต๊ะ(จนขนมและน้ำต้องกระเด็นมาอยู่บนเก้าอี้แทน)
ถ้าโตขึ้นมาอีกนิดก็จะมาพร้อม กล้องแบบที่มีเลนส์อันใหญ่ๆ คอยถ่ายรูป เก็บรายละเอียด เดินดุ้กดิ้กไปทั่วร้าน (โดยไม่รู้ว่าโต๊ะน้องเค้าอยู่ไหนกันแน่) แต่ถ้ารุ่นใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ก็มักจะมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค คู่มือขายตรงและเสียงอันก้องกังวาน (นี่เค้าคุยกับเราอยู่รึป่าวคะ) ขณะที่กำลังพินิจพิจารณาสิ่งแวดล้อมเพลินๆพนักงานก็ถือจานเค้กมาให้พอดีค่ะ ><
เค้กที่เราสั่งวันนี้ เป็น chocolate
chesse cake ราคาแพงเอาเรื่องเหมือนกันนะชิ้นนี้
145บาท
ถึงชิ้นจะอวบอ้วนดีก็เหอะ เสริ์ฟมาพร้อมวิปครีมฟูนุ่มในถ้วยรูปไข่ เป็นเค้กเรียบๆ
ไม่ได้แต่งหน้าหรูหรา หรือว่ามีอะไรประดับมากมายเหมือนที่อื่น
แต่เรากลับรู้สึกว่ามันน่ากินในแบบของมันเอง อย่างน้อยมันก็หนาและดูเงาดี
ตัวเนื้อช็อกโกแลตชีสนี้เนียนนุ่ม แต่ไม่ได้หนักแน่นเหมือนชีสเค้กทั่วไปนะ
ออกจะเบาบางด้วยซ้ำ เหมือนเป็นเค้กที่เน้นกินเบาๆ กินได้เรื่อยๆ คือไม่ได้หวือหวา หรือโดดเด่นอะไรมากมาย ถ้าเป็นมูสถือว่าพอดี แต่ถ้าเป็นชีสเค้กอาจจะเบาไปหน่อยค่ะ ส่วนของความหวานถือว่าไม่ได้หวานมาก อันนี้ถือว่าโอเค ได้กลิ่นช็อกโกแลตเล็กน้อย ฟินเบาๆ ก็คือไม่แย่ค่ะ พอดีเราชอบอะไรเบาๆอยู่แล้ว เค้กตัวนี้จึงถูกใจเราเชียวค่ะ เข้ากันกับบรรยากาศเบาๆชิวๆฟินๆของร้าน โอ๊ย รู้สึกว่าอยากจะเอาการบ้านออกมาทำ
อยากจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน อยากเอาดินสอมาวาดรูป
อยากได้กล้องโปรแบบน้องคนนั้น(ไม่ใช่ล่ะ) คือมันชิววววว ณ จุดนี้ 55
ส่วนเครื่องดื่มวันนี้เราเลือกเป็น Strawberry
& Marshmallows milkshake (145บาท) เป็นนมปั่นกับสตรอเบอรี่
บีบวิปครีมและโรย marshmallows ด้านบน รสชาติหวานและหอมดีนะ
รสนมเราว่าดีแล้ว รสหวานก็โอแล้ว สีสันพาสเทลน่าดูดเป็นที่สุด วินเทจดี ติดแค่ถ้ามีรสสตอรเบอรี่มากกว่านี้ด้วย
จะโอเคและดีมาก แต่ราคาก็สูงไปนิ๊ดดดดดนึงด้วยนะ
บรรยากาศร้านอีกนิดนึง
วันที่เราไปคนเยอะเชียวค่ะ
บางคนอาจจะมาเพื่อชิมกาแฟ บางคนอาจจะมาเพื่อนั่งแช่เฉยๆ
บางคนก็มาเพื่อจะได้ถ่ายรูปสวยๆในขณะที่บางคนก็แค่มาหาที่ชุมนุมพูดคุยกันอย่างออกรส
แล้วเพื่อนๆล่ะคะ
จะมาเติมคำในช่องว่างด้วยคำไหนในวันว่างครั้งหน้าที่จะถึงนี้ดี สำหรับผู้เขียนยังหาคำไม่ได้ คือรู้สึกว่า ร้านชิว แต่งร้านสวย เค้กเบาไปนิด ราคาแอบแพง มันผสมปนเป เอาเป็นว่า..ขอเว้นช่องว่างไว้ก่อนเพราะรู้สึกยังไม่เติมเต็ม ><
ปล่อยให้ Blank ไว้ เดี๋ยวว่างเมื่อไหร่จะหาเวลามา fill in the blank อีกรอบแล้วจะมาให้คำตอบนะคะ ^^