Clear Story เรื่องนี้ต้องเคลียร์ กับบรรยากาศที่แสนอบอุ่น

ถ้าคุณอยากหาปลา คุณก็ต้องนั่งเรือออกทะเล แต่บางครั้งบางคราวเรื่องบังเอิญก็เกิดขึ้นได้ในชีวิต


ผมไม่ได้จะบอกว่าการนั่งกระดิกเท้าอยู่ในโรงแรมแล้วจะจับปลาได้ แต่ชีวิตคนไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ บางทีไม่ตั้งใจทำอะไรกลับเจออะไรที่ดีกว่า แบบนี้ก็มีให้เห็นกันเป็นประจำ
เหมือนที่ผมตั้งใจเสาะหาร้านกาแฟดีๆอยู่ตลอดเวลา แต่หาไม่ค่อยเจอ

พอไม่ตั้งใจหา กลับเจอครับ....

พอดีมีโอกาสขับรถผ่านเส้นถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าซีคอน ซึ่งเราจะผ่านห้างพาราไดซ์ (ทางขวาคือห้างพาราไดซ์นะครับ) ตรงสี่แยกนั้น ซ้ายมือมีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูแดงที่ผมอยากกินมานานแต่หาโอกาสไม่ได้ซักที วันนี้ก็เลยลองเลี้ยวเข้าซอยไป ปรากฏว่าหาที่จอดรถไม่ได้ วนไปวนมา รถราก็มากหลาย จึงวนขวาจนมาออกอีกซอยที่มาเจอถนนศรีนครินทร์อีกที พลันหันไปเห็นที่ปากซอยมีที่จอดรถว่างอยู่ 1 ที่ จึงรีบเข้าไปจอดทันที พอเงยหน้าดูดีๆจึงเห็นว่าเป็นที่จอดรถของร้านกาแฟที่มีชื่อว่า Clear Story

ด้วยความหิว จึงตัดสินใจจอดแล้วคิดว่าหลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จจะแวะมาอุดหนุนร้าน Clear Story เพื่อรักษามารยาทที่เราจอดรถในที่จอดของทางร้าน

ผมขอข้ามรสชาติก๋วยเตี๋ยวไปเลยเพราะไม่ใช่ประเด็นที่จะเขียนในวันนี้ครับ แน่นอนว่าสิ่งที่จะพูดถึงก็คือร้านกาแฟ Clear Story


ร้านตกแต่งในแนวธรรมชาติ มีต้นไม้รายรอบ โต๊ะไม้ขนาดค่อนข้างยาวโดดเด่น เฟอร์นิเจอร์ออกแนว Loft และ modern จริงๆผมไม่อยากพูดถึงแนวการตกแต่งมากนักเพราะไม่ได้รอบรู้เรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่

แน่นอนว่ายี่ห้อ Bakegazine เรามาพูดถึงรสชาติขนมเบเกอรี่และกาแฟกันดีกว่าครับ

ตู้เค้กมีขนมไม่เยอะ อาจจะเพราะเราไปวันธรรมดา


พูดถึงกาแฟกันก่อน ผมสั่ง Iced Latte แก้วละ 95 บาท

อย่างที่ผมพูด (เขียน) อยู่เสมอว่าความชอบกาแฟของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมชอบกาแฟที่มีเนื้อครับ ซึ่งผมขอให้นิยามดังนี้ จดไว้ได้เลยครับ

กาแฟมีบอดี้ คือกาแฟที่มีความเข้มข้นและกลมกล่อมกำลังดี ไม่ขมเกินไป เพราะกาแฟขมคือไหม้นะครับไม่ใช่เข้มดี และมีเนื้อกาแฟแปลว่ามี texture ของน้ำกาแฟที่เมื่อดื่มเข้าไปแล้วมีน้ำหนัก คือกลืนได้ช้าหน่อย รวมทั้งมีมวลสารของรสชาติด้วยจึงรับรสได้นานขึ้น และมี after test ที่ยาวนานประมาณ 5 วินาที คือหมายถึงเรายังสัมผัสความหอมละมุนของน้ำกาแฟได้อยู่เมื่อกลืนลงไปซักพัก  และรู้สึกอยากดื่มอีกแต่ไม่ใช่ในทันที ต้องรอแป๊บนึง เพื่อเตลิดกับรสชาติพออิ่มใจ จึงค่อยดื่มอีก ประมาณนี้ครับ

กาแฟอร่อย ทุกอย่างอยู่ที่เมล็ดกาแฟเป็นหลัก แม้ไม่ใช่เหตุผลเดียว แต่เป็นเหตุผลหลัก รองลงมาคือเครื่องชง คนชง วิธีชง เหมือนทอดปลาให้อร่อยปลาต้องสดก่อนครับ เพราะฉะนั้นเมล็ดกาแฟต้องดีไว้ก่อน ไม่ต้องสงสัยเรื่องนั้นเลย

เพราะฉะนั้นสำหรับผม ไม่ว่าจะเป็นกาแฟคั่วเข้ม คั่วกลาง คั่วอ่อน หรือทำเป็นเมนูไหน ถ้ามีบอดี้กาแฟดีผมจะชอบเป็นพิเศษ และถือว่าเป็นเมล็ดกาแฟที่ดี ซึ่งคือส่วนสำคัญของกาแฟ ทั้งร้อนและเย็น ต้องมีเนื้อมี texture ครับ

การใช้เมล็ดกาแฟดี ทำให้งานง่ายขึ้นเยอะ เหมือนคนเรานี่ล่ะครับ ถ้าหน้าตาดีอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งเติมเสริมอะไรมากนักก็ดูดีแล้ว

ที่เกริ่นมายืดยาว ก็เพื่อจะอธิบายรสชาติของกาแฟแก้วนี้ ที่ Clear Story นั่นเองครับ

แม้จะเป็นลาเต้เย็นซึ่งความเข้มข้นของกาแฟก็ดรอปลงนิดนึงด้วยปริมาณนมสดที่มาเจือจาง แต่ถือว่าเมล็ดกาแฟที่ใช้ เป็นตามที่ได้บรรยายไว้ข้างบนทุกประการครับ แต่จะดีขึ้นอีกถ้าใช้น้ำแข็งเกล็ดใหญ่และใส่ในปริมาณที่น้อยกว่านี้นิดนึง ความอร่อยคงฟุ้งเฟ้อได้มากกว่านี้อีกครับ

Hot Latte แก้วละ 70 บาท


เราสั่งกาแฟร้อนหลังจากที่ได้ชิมกาแฟเย็นไปแล้วนะครับ เพราะเดี๋ยวนี้หากาแฟกินอร่อยยาก จึงต้องชิมก่อน 55 พอกาแฟเย็นโอเค ก็มาถึงตัวหลักคือกาแฟร้อนนั่นเอง เราสั่ง ลาเต้ร้อน เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างร้อนกับเย็นดูครับ

ผลก็คือ อร่อย กาแฟนุ่มนวล กลมกล่อม มี texture กาแฟที่ดี ร้อนน้อยไปหน่อยแต่ก็เป็นปกติของกาแฟลาเต้ร้อนครับกับอุณหภูมิของนมและกาแฟโดยรวม เพราะฉะนั้นก็ถือว่า ชอบครับแก้วนี้

เค้กกาแฟอัลมอนด์ ชิ้นละ 95 บาท


ดูจากเบเกอรี่ของทางร้าน ไม่แน่ใจว่าทำเองหรือสั่งมาขาย แต่ถ้าให้เดาน่าจะไม่ได้ทำเองนะครับ เพราะทางร้านดูคล้ายๆเป็นบริษัทออกแบบหรืออะไรซักอย่าง เปิดส่วนของร้านกาแฟขึ้นมาอาจจะเพื่อให้พนักงานดื่มผ่อนคลายและบริการลูกค้าทั่วไปแบบสบายๆ อาจจะไม่ได้ทำเบเกอรี่เต็มตัวอะไรขนาดนั้นน่ะครับ


ซึ่งชิมแล้วเค้กก็กินได้ครับ แต่อร่อยมั้ยคือมุมมองของผมก็ต้องบอกว่ารสชาติของเค้กกาแฟตัวนี้เบาไป เนื้อเค้กฟูเบาแหละแต่กลิ่นกาแฟน้อย เช่นเดียวกับตัวครีมกาแฟที่ทำด้วยบัตเตอร์ครีมซึ่งมีกลิ่นกาแฟน้อยอีกเช่นกัน คาราเมลถั่วโอเคดี แต่ให้มาน้อยไปนิดกับราคา 95 บาท ทำให้โดยรวมก็กินได้แต่ไม่ได้ชอบอะไรมากนักครับ

ร้าน Clear Story จัดร้านไว้เป็น 3 ส่วน ภายนอก 1 ส่น ภายในแบ่งเป็นส่วนด้านหน้าที่มีโต๊ะยาวนั่งได้หลายคน และส่วนด้านในเป็นส่วนตัวนิดนึงเหมือนเป็นโต๊ะนั่ง 2 คนหลายตัวเหมือนกัน และพื้นที่ส่วนนี้สามารถเปิดเข้าไปอีกฝั่งซึ่งเหมือนเป็นบริษัทออกแบบครับ


ผมอยากจะเดาความหมายของชื่อร้าน Clear Story ตั้งแต่แรกเห็นแต่คิดไม่ออก เพราะตีความได้หลายทาง แต่พอเห็นพื้นที่นั่งคุยตรงนี้ผมว่าเหมือนกับ ให้คนมานั่งคุยกัน เคลียร์กันอะไรแบบนี้รึเปล่า คือมาเคลียร์เรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะพูดคุยแบบไหน นัดพบเพื่อนเก่า แฟนเก่า แฟนปัจจุบัน เคลียร์กับกิ๊ก หรือคุยเรื่องในครอบครัว เรื่องงาน หรือสัพเพเหระทั้วไป ลุงกับหลานก็ได้ แม่กับลูก พี่กับน้อง หรือพูดง่ายๆคือ สถานที่ๆมา Clear Story กันได้ทุกเรื่องราว ในบรรยากาศค่อนข้างส่วนตัว

ซึ่งผมว่าทางร้านทำออกมาได้ดี กาแฟดี บรรยากาศดี อยากจะติเรื่องราคาสูงไปนิดแต่ยุคนี้คุณก็ต้องกินราคานี้แทบจะทุกร้านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ กับบางที่ราคานี้แถมไม่อร่อย จึงยกประโยชน์ให้ร้านที่ทำอร่อยขายราคานี้ได้โดยปริยายกันอยู่แล้ว

สำหรับผม มีเรื่องต้องเคลียร์นิดเดียว คือกาแฟเข้มข้น แต่เค้กกลับบางเบา ดูไม่ค่อยเคลียร์ ไว้คราวหน้าผมจะชิมเค้กให้อีกทีแล้วจะมาเคลียร์ให้ท่านผู้อ่านฟังอีกรอบครับว่าสรุปแล้วเป็นยังไง

โดยรวมผมคิดว่าร้านกาแฟที่ทำเหมือนเป็นธุรกิจเสริมที่เพิ่มเติมจากธุรกิจหลัก คือใช้ธุรกิจหลักมาซัพพอร์ต มักจะทำออกมาได้โอเคทีเดียวครับ ซึ่งการทำธุรกิจออกแบบที่ต้องมีความละเอียดของเนื้องาน ส่งผลให้ร้านกาแฟมีการเน้นรายละเอียด คุณภาพกาแฟ และการออกแบบร้านที่ดีตามไปด้วยครับ

ซึ่งบางที่ก็เป็นอะไรที่แปลกๆ คือไม่ต้องเน้นมาก ทำเสริม ทำชิวๆเรื่อยๆ มักจะทำออกมาได้ดี

เฉกเช่นร้าน Clear Story นี้ล่ะครับ



การบังเอิญมาเจอกาแฟดีๆแบบไม่ได้ตั้งใจสรรหา จึงเป็นที่มาของรีวิวในวันนี้

บางทีไม่ต้องออกทะเล ก็มีปลาดีๆให้กิน....

เพราะชีวิตไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์นะครับ