Japanese cheesecake อบยังไงไม่ให้แตก & เด้งดึ๋งฟูเบา
เชื่อว่าเป็นคำถามที่นักอบขนมหลายคนยักคิ้วสงสัยและอยากรู้คำตอบมากๆจริงมั้ยล่ะคะ
ว่าทำไม๊ทำไมชีสเค้กญี่ปุ่นที่พองฟูเบานุ่มขณะอบ แต่เมื่อเอาออกมาจากเตาอบซักพักนึงขนมถึงได้แบนแตร๊ดแต๋แฟบลงมาเหมือนโดนเจาะยางซะอย่างงั้น แถมหน้าเค้กปริแตกอีกต่างหาก เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตกของชีสเค้กญี่ปุ่นเค้าล่ะค่ะ
แต่วันนี้ Bakegazine มีคำตอบให้ค่ะว่า ทำอย่างไรจะคงรูปชีสเค้กให้ฟูสูงและหน้าไม่แตกได้ค่ะ
1. ชีสเค้กญี่ปุ่นจะมีส่วนของไขมันค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อมีการแยกไข่แดงไข่ขาวตีแบบชิฟฟอน ทำให้การอบต้องอบที่อุณหภูมิต่ำเป็นเวลานาน เพื่อให้ขนมมีโครงสร้างที่มั่นคง อย่าอบอุณหภูมิสูงเด็ดขาดค่ะ ไม่งั้นพออบเสร็จเอาออกมาจะแฟ่บแบนอย่างชัดเจน
อุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 140 - 160 C เท่านั้นค่ะ ประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมงกว่าจะโอเคค่ะ
2. การอบชีสเค้กญี่ปุ่นควรวางพิมพ์ไว้ที่ถาดชั้นกลางของเตาอบ และด้านล่างให้นำถาดใส่น้ำร้อน 1/3 ของถาดวางเอาไว้ เป็นการสตีมไอน้ำ เพื่อไม่ให้ชีสเค้กแตกด้วยการขึ้นฟูเร็วเกินไป
3. เมื่ออบเสร็จ ให้ปล่อยชีสเค้กไว้ในเตา โดยปิดเตาแล้วแง้มฝาเตาไว้เล้กน้อย เมื่อชีสเค้กเย็นในเตา จะมีการปรับอุณหภูมิของขนมด้วยตัวเอง ทำให้ชีสเค้กไม่หดมาก และที่สำคัญคือหน้าไม่แตก และเนื้อเค้กไม่แห้งด้วยค่ะ
ไม่นำชีสเค้กที่อบเสร็จออกมาทันที
เพียงแค่นี้ เราก็จะช่วยให้ชีสเค้กญี่ปุ่นเด้งดึ๋งหน้าไม่แตก และฟูสูงไม่ต่างจากตอนเพิ่งอบเสร็จเลยทีเดียวค่ะ ^^
ได้ผลยังไงบอกกันบ้างนะคะ