souffle cheese ชีสเค้กอะไรเอ่ย เบาดุจปุยนุ่น เข้มข้นดุจปิศาจ
บางทีชีสเค้กแน่นๆ รสชาติเข้มข้นแบบนิวยอร์กอาจจะหนักไปสำหรับใครหลายคน ว่ามะ
งั้นการทำชีสเค้กที่เบาลงมาหน่อย แต่ความอร่อยยังคงเดิมก็อาจจะดีเหมือนกันนะคะ
วันนี้เราจึงอยากจะนำเสนอ souffle cheese cake ที่แสนจะเบานุ่ม แต่ชุ่มฉ่ำไปด้วยชีส หวานกำลังดี อร่อยกำลังโดน และที่สำคัญ อ้วนน้อยด้วยค่ะ อยากจะทำกันแล้วใช่ม้าา งั้นไปดูส่วนผสมกันก่อนเลย
ส่วนผสม
ครีมชีส 310 กรัม
เนย 25 กรัม
วิปครีม 65 กรัม
นมสด 45 กรัม
ไข่แดง 4 ใบ
ไข่ขาว 4 ใบ
น้ำตาล 80 กรัม
แป้งเค้ก 18 กรัม
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา
เกลือ 1/8 ช้อนชา
พอเตรียมส่วนผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาดูวิธีทำกันต่อเลยนะคะ
เริ่มแรกให้ต้มน้ำในหม้อจนร้อน
1. ใส่ครีมชีส เนย นม และวิปครีมในชามที่ทนความร้อนได้นะคะ แล้วจึงนำไป bain-marie บนน้ำร้อนค่ะ
(การ bain-marie หรือ water bath ก็คือการทำความร้อนอย่างนึงค่ะ แทนที่เราจะนำส่วนผสมไปตั้งไฟโดยตรง เราก็นำไปวางบนน้ำร้อนแทนค่ะ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมนั้นร้อนจนเกินไปนั่นเองค่า)
2. ใช้ตระกร้อมือคนไปเรื่อยๆค่ะ จนส่วนผสมเข้ากันดีค่ะ
3.ใส่ไข่แดงลงไปทีละใบค่ะ
คนจนเข้ากันก่อนนะคะ ค่อยใส่ไข่แดงใบต่อไป ของอร่อยต้องใจเย็นๆค่ะ 55
4.พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้วก็ใส่แป้งเค้กและแป้งข้าวโพดที่ร่อนแล้วลงไปได้เลยค่ะ
5. ตีไข่ขาวกับน้ำตาลจนตั้งยอดแข็ง (เจ้าสิ่งนี้เรียกว่า เมอแร็งค์ค่ะ)
6. นำเมอแร็งค์ที่ได้มาผสมกับส่วนชีสค่ะ คนเบาๆ และในขณะเดียวกันก็ต้องเร็วด้วยค่ะ เพราะยิ่งนานเท่าไหร่ ไข่ขาวที่เราตีไว้ก็จะฝ่อลงไปเท่านั้นค่ะ และแทนที่จะได้ชีสเค้กที่เบาดั่งปุยนุ่นมาเชยชม เราอาจจะได้ ชีสเค้กที่แข็งราวกับขุนเขามาแทนก็ได้นะเคอะ เหอะๆๆๆ
7.หลังจากที่เราคนส่วนผสมกันอย่างสนุกสนานแล้ว ก็เทลงไปในพิมพ์ที่รองกระดาษไขไว้ได้เลยค่ะ
นำเข้าไปอบ ไฟบน-ล่าง 180 องศา ประมาณ 20-30นาทีค่ะ โดยระหว่างที่อบก็ให้เรานำน้ำใส่ภาชนะที่ทนความร้อนสูงได้ เข้าไปอบด้วยกันด้วยนะคะ และที่สำคัญเมื่อเพื่อนๆอบเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งเอาออกมาวางข้างนอกนะคะ ให้วางชีสเค้กทิ้งไว้ให้เย็นในเตาเลยค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าเค้กแตกค่ะ
เมื่อเค้กเย็นแล้วก็นำมาตกแต่งด้านบนให้ดูฟูฟ่องด้วยเนื้อเค้กที่ขูดให้เป็นฝอยๆแบบนี้ล่ะค่ะ
เย้ๆๆๆ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนอาจจะดูเยอะซักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนค่ะ เนื้อสัมผัสนั้นนุ่มเบา แต่รสชาติกลับเข้มข้น
สองอย่างที่ลงตัวพร้อมกันในปากเมื่อไหร่ ก็อร่อยไม่ยั้งเมื่อนั้น